
Category: ยิ่งใช้ยิ่งได้










โครงการใหม่.. “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ต้องใช้อย่างไรถึงจะได้เงินคืน 2565
สำหรับยิ่งใช้ยิ่งได้เป็นโครงการใหม่จากรัฐบาลที่ออมาเพื่อให้ประชาชนได้ออกมาจับจ่ายใช้สอยและรับเงินคืนได้ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นโครงการที่มาใหม่ หลายคนจึงสงสัยว่าแล้วจะสามารถใช้บริการยิ่งใช้ยิ่งได้ใช้ยังไง ไม่รอช้าเราไปดูกันเลย
โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้คืออะไร ?
ยิ่งใช้ยิ่งได้เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นแผนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยจะเห็นได้ว่าจะต้องใช้เงินชำระเงินผ่าน G-Wallet บนแอปฯ “เป๋าตัง” เท่านั้น และจะต้องมีการใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่กำหนดและร่วมรายการเท่านั้น ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ก.ค.64 จนถึงหมดเขตวันที่ 31 ธ.ค.64 โดยการใช้ยิ่งใช้ยิ่งได้จะแบ่งช่วงเวลาเป็นสองส่วน นั่นก็คือช่วงใช้จ่ายจะต้องใช้จ่ายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 1 ก.ค.64 – 30 ก.ย. 64 จากนั้นจะได้รับ E-Voucher จากยิ่งใช้ยิ่งได้ตามสัดส่วนที่มีการใช้จ่ายยอดไป ซึ่ง E-Voucher ที่ได้จะขึ้นอยู่กับยอดเงินที่มีการใช้จ่าย ดังนี้
- จำนวนยอดที่ใช้จ่ายตั้งแต่ 1 บาท จนถึง 40,000 บาทจะได้รับ E-Voucher จากยิ่งใช้ยิ่งได้ 10% หรือวงเงินสูงสุด 4,000 บาท
- จำนวนยอดที่ใช้จ่ายตั้งแต่ 40,001 บาทจนถึง 60,000 บาท จะได้ได้รับ E-Voucher จากยิ่งใช้ยิ่งได้ 15% หรือวงเงินสูงสุด 3,000 บาท
เช่น หากมีการใช้จ่ายยอด 50,000 บาท จะเท่ากับ ได้คูปอง 10% จาก 40,000 บาทเท่ากับ 4,000 บาท และได้เพิ่มส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาท 15% เท่ากับ 1,500 บาท รวมเป็นได้คูปองเงินที่ใช้จ่ายได้อีก 5,500 บาทนั่นเอง เรียกง่าย ๆ ว่ายอดเงินที่เกิน 40,000 บาทขึ้นมาจะคิดยอดเงินคืนที่เกินมา 15% โดยยอดใช้จ่ายต้องไม่เกิน 60,000 บาท และมีมูลค่ารวมคูปองเงินคืนแล้วไม่เกิน 7000 บาท ซึ่งจะได้รับคูปอง E-Voucher ในทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตการใช้บริการจากยิ่งใช้ยิ่งได้บางอย่างที่ต้องระวัง เพราะเงื่อนไขจำกัดคือ ผู้ที่สมัครมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะต้องไม่เป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ร่วมโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการ ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ(ผ่านบัตรประชาชน) ไม่ร่วมโครงการผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ด้วยเช่นกัน
ยิ่งใช้ยิ่งได้จึงตอบโจทย์คนที่ใช้จ่ายผ่านร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าอยู่แล้วเป็นประจำ เพราะเท่ากับจะได้คูปองให้การจับจ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก โดยกลุ่มสินค้าที่สามารถใช้คูปองได้ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการต่าง ๆ สปา นวด ทำผม ทำเล็บ โดยจะยกเว้นการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทผิดกฎหมาย ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะทั่วไปได้